20.00 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่เคาน์เตอร์เช็คอิน U (แถว U 14-18) ประตูทางเข้าที่ 9 หรือ 10 อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส (TK) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
23.05 น. ออกเดินทางสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยเที่ยวบิน TK 69 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.15 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินฯ มีบริการ อาหารค่ำและอาหารเช้า
05.20 น. เดินทางถึงสนามบินอิสตันบูล (IST) ประเทศตุรกี แวะเปลี่ยนเครื่อง เที่ยวบิน TK77 อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีภายในสนามบินอิสตันบูล
สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์สมีบริการ ซิตี้ทัวร์ครึ่งวัน สำหรับท่านที่รอต่อเครื่องบินนานกว่า 6 ชั่วโมง หรือ จะเลือกช้อปปิ้งสินค้า duty free ภายในสนามบินอิสตันบูลได้
14.10 น. ออกเดินทางจากสนามบินอิสตันบูล สู่ สนามบินไมอามี่ (ใช้เวลาบินประมาณ 12.20 ชั่วโมง)
********* บินข้ามเส้นแบ่งเขตเวลาสากล *******
สายการบินมีบริการอาหารกลางวัน และ อาหารค่ำบนเครื่องบิน
19.25 น. เดินทางถึงสนามบินไมอามี่ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Raddison Miami Airport Hotel **** หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
09.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินไมอามี่ เพื่อเช็คอิน
12.05 น. ออกเดินทางจากสนามบินไมอามี่ สู่ สนามบินเบลีซ โดยเที่ยวบิน.......
12.17 น. เดินทางถึงสนามบินเบลีซ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น พร้อมเมนูพิเศษ กุ้งมังกร
บ่าย นำท่านเที่ยวชมเมืองเบลีซ ซิตี้ (Belize City) เมืองหลวงของประเทศเบลีซ ซึ่งเป็นประเทศขนาดเล็ก ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของอเมริกากลาง ริมทะเลแคริบเบียน มีอาณาเขตจรดประเทศเม็กซิโกทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และจรดประเทศกัวเตมาลาทางทิศตะวันตกและทิศใต้มีประเทศฮอนดูรัส ชื่อประเทศมีต้นกำเนิดมาจากชื่อแม่น้ำเบลีซ ซึ่งเมืองเบลีซซิตี้ (เมืองหลวงเก่า) ก็ได้ชื่อมาจากแม่น้ำนี้ด้วยเช่นกัน เบลีซมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ซึ่งพระมหากษัตริย์จะทรงอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ มีสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรเป็นประมุขพระองค์ปัจจุบัน นำท่านเที่ยวชมเมืองเบลิซ ซิตี้ อีกเมืองที่มีสีสันสดใสของหมู่อาคารที่ได้รับอิทธิพลจากอังกฤษ นับเป็นเมืองน่ารักแห่งทะเลแคริบเบียน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Radisson Fort George Hotel & Marina Hotel **** หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านสัมผัสประสบการณ์นั่งเครื่องบินเล็กชมหลุมน้ำเงินคราม แห่งเบลีซ (The Great blue hole) ในมุมแบบ Bird Eye View หลุมนี้อยู่ห่างจากแผ่นดินถึง 60 ไมล์ เป็นหลุมวงกลมที่ล้อมรอบด้วยแนวหินโสโครกและปะการังอีกที ปากหลุมมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1,000 ฟุต และลึกลงไปใต้ดินอีก 400 ฟุต เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปให้ได้หากมีโอกาสไปเยือนเบลีซ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
13.30 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินเบลีซเพื่อเช็คอิน
16.40 น. ออกเดินทางจากสนามบินเบลีซ สู่สนามบินฟอร์เรส โดยเที่ยวบิน.....
17.40 น. เดินทางถึงสนามบินฟอร์เรส ประเทศกัวเตมาลา
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Casona Del Lago Hotel **** หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติติกัล (Tikal National Park) สถานที่ที่ท่านจะได้สัมผัสทั้งประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่สวยงามไปพร้อมๆกัน อุทยานแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ลุ่มในป่าฝนทางตอนเหนือของกัวเตมาลา ซึ่งถือเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอันดับต้นๆ เนื่องด้วยความสวยงามและความเก่าแก่ของสิ่งก่อสร้างของอารยธรรมมายันโบราณ ถูกสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่6 ก่อนคริสตกาล ก่อนจะถูกทิ้งร้างในคริสต์ศตวรรษที่10 และในปี1979 ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย คำว่า “ติกัล” นั้นหมายความว่า “สถานที่แห่งเสียง” ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวมายันมากว่า 250,000 คน ในปัจจุบันแม้จะเหลือเพียงซากปรักหักพังของเมืองโบราณ แต่สถานที่แห่งนี้ก็ยังคงความสวยงามโดยถูกล้อมรอบไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่มของป่าฝนที่อุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยสัตว์ป่าน้อยใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นฝูงลิง นกแก้ว กวาง และสัตว์อีกหลายสายพันธุ์ นำท่านชมพีระมิดสถาปัตกรรมโบราณที่สมบูรณ์ยิ่ง อิสระให้ท่านเก็บภาพความสวยงามตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ซิลวานัส มอร์เรย์ (Sylvanus Morley Museum) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งชื่อตามนักโบราณคดีชาวอเมริกัน ที่ได้ทำการขุดค้นและศึกษาเรื่องราวของชนเผ่ามายันในอดีต นำท่านเข้าชมสมบัติอันล้ำค่าที่ได้ขุดพบและเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองฟอร์เรส (Flores) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเกาะยื่นไปในทะเลสาบเพเท่น อิสซ่า (Lago Peten Itza) ซึ่งมีทางเชื่อมเป็นคอสเวย์ เชื่อมระหว่างเมืองอีก 2 เมืองไว้ด้วยกันคือ เมือง ซานตาเอรินา (Santa Elena) และ ซานตา เบนิโต (Santa Benito) โดยทั้ง 3 เมืองจัดเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในฟอร์เรส นำท่านเที่ยวชมเมืองฟอร์เรส เมืองน่ารักอีกแห่งของกัวเตมาลา
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
17.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินเพื่อเชคอิน
20.15 น. ออกเดินทางจากสนามบินฟอร์เรส สู่สนามบินกัวเตมาลา
21.15 น. เดินทางถึงสนามบินกัวเตามาลา นำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Best Western Stofella Hotel **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 1)
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองแอนติกัว (Antigua) เมืองทางตอนใต้ห่างจากกัวเตามาลาซิตี้เพียง 45 กิโลเมตร เป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกของประเทศกัวเตมาลา นำท่านเที่ยวชมเมืองแอนติกัว (Antigua) เมืองที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี 1979 เมืองแอนติกัวเป็นเมืองที่ร่ำรวยคุณค่าด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เมืองนี้ตั้งอยู่ในบริเวณ Panchoy Valley เป็นเมืองหลวงเมืองที่สามของกัวเตมาลาหลังจากมีการโยกย้ายมาถึงสองครั้งเพื่อหนีน้ำท่วมและแผ่นดินไหว ชาวสเปนที่เข้ามายึดครองดินแดนแถบนี้ตั้งแอนติกัวขึ้นเป็นเมืองหลวงในปี ค.ศ.1543 แอนติกัวได้เป็นเมืองหลวงมายาวนานราวสองร้อยปี แม้ว่าระหว่างนั้นได้มีแผ่นดินไหวสร้างความเสียหายอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1773 เมืองนี้ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวเสียหายอย่างหนักจนต้องย้ายไปตั้งเมืองหลวงใหม่ที่อื่นในที่สุด ช่วงที่สเปนเข้ามายึดครองได้มีการสร้างโบสถ์คาทอลิกและสถาปัตยกรรมแบบบารอคไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นหมู่อาคารแบบโคโลเนียลที่สวยงามโดดเด่น นำท่านชมซุ้มประตูซานตา แคทารีนา (The Arch of Santa Catalina) อันเลื่องชื่อโค้งประตูนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของ Santa Catalina monastery ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 ก่อนที่จะถูกแผ่นดินไหวทำให้เสียหายอย่างหนักจนเหลือแต่โค้งประตูเท่านั้น จากนั้นนำท่านชมบ้านเรือนสมัยก่อนที่สร้างขึ้นในยุคสเปนเรืองอำนาจ ชมโบสถ์สำคัญๆที่มีความสวยงามและยังคงสภาพสมบูรณ์แม้จะผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวมาหลายครั้งหลายครา อิสระให้ท่านเดินเล่นและเก็บภาพเมืองแอนติกัว ที่ได้รับการขนานนามเป็นเมืองที่ร่ำรวยด้วยศิลปะและวัฒนธรรมในแบบชาวสเปนที่คงสภาพสมบูรณ์ที่สุด สมควรแก่เวลานำท่านชมโรงงานหยก ที่ขึ้นชื่อของเมืองแอนติกัว ที่ได้รังสรรค์ออกมาในรูปแบบต่างๆมากมาย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองกัวเตมาลาซิตี้ นำท่านเที่ยวชมเมืองหลวงกัวเตามาลาซิตี้ นำท่านชมและถ่ายรูปกับอาคารรัฐสภา, โบสถ์ประจำเมือง, พระราชวังศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติ, จัตุรัสรัฐธรรมนูญ ซึ่งล้วนแล้วแต่อุดมไปด้วยศิลปะแบบยุโรป รวมถึงอิทธิพลในแบบศิลปะโคโลเนียลของสเปน อิสระให้ท่านเก็บภาพความสวยงามของเมืองกัวเตมาลาซิตี้ได้ตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Best Western Stofella Hotel **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 2)
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองเอล ฟลอริโด (El Florido) เมืองพรมแดนระหว่างประเทศฮอนดูรัสและประเทศกัวเตมาลา นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองของประเทศกัวเตมาลา และ ประเทศฮอนดูรัส นำท่านเดินทางสู่เมืองโคปัน (Copan) เป็นเมืองโบราณที่มีความเก่าแก่ ตั้งอยู่บริเวณตะวันตกของประเทศฮอนดูรัส เป็นเมืองที่มีความเก่าถึงสองพันปี โดยได้มีการสันนิษฐานว่า ที่แห่งนี้ได้เป็นนครหลวงมาก่อน พร้อมทั้งได้มีผู้คนอาศัยอยู่ประมาณ 20,000 คน เมืองนี้มีการปกครองโดยมหากษัตริย์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเข้าชมโบราณสถานแห่งเมืองโคปัน ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก เป็นโบราณสถานของอารยธรรมมายาอันเก่าแก่ ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศฮอนดูรัส เป็นเมืองเก่าอายุกว่าสองพันปี ที่มีการสันนิษฐานว่าเคยเป็นเมืองหลวงมาก่อน เมืองมีการปกครองโดยกษัตริย์ มีเรื่องราวการเมือง เป็นชุมชนเก่าแก่ที่น่าสนใจ แต่ก็ได้อพยพย้ายถิ่นฐานไปในที่สุด ส่วนสิ่งปลูกสร้างภายในโดดเด่นในศิลปะสไตล์ลุ่มแม่น้ำของชนเผ่ามายา ทั้งพีระมิดเพื่อบูชาเทพเจ้า รูปปั้นที่เป็นเอกลักษณ์ ซากปรักหักพังที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ซึ่งเมืองนี้ตั้งอยู่ในหุบเขาและแม่น้ำที่อุดมสมบูรณ์ และป่าดงดิบ สันนิษฐานว่าเมื่อหลายพันปีก่อนเมืองนี้คงเป็นชุมชนที่ครึกครื้น นำท่านชมพีระมิดและสถานที่สำคัญในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของชาวมายาในอดีต ตลอดจนชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในการบูชายัญ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของเมืองโบราณโคปันตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Marina Copan Hotel **** หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองซานตา แอนนา (Santa Ana) ระหว่างการเดินทางต้องข้ามพรมแดน ฮอนดูรัส – กัวเตมาลา และ เอลซัลวาดอร์ ระหว่างการเดินทางท่านจะได้ชมทัศนียภาพและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ตลอดจนพืชพันธุ์ไม้ที่มีการเพาะปลูกตลอดแนว นำท่านชมเมืองและถ่ายรูปกับโบสถ์โกธิคประจำเมือง (Gothic Cathedral) และ โรงละครแห่งชาติ (National Theater) ที่ยังคงความสวยงามและจัดได้ว่าเป็นอาคารโบราณที่ยังสมบูรณ์ยิ่งจวบจนปัจจุบัน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองโบราณ โฮยา เด เซเรน (Joya de Ceren) หรือที่รู้จักในนาม “เมืองปอมเปอีของชาวมายัน” (Mayan Pompeii) เป็นเมืองโบราณที่สำคัญและได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นเมืองมรดกโลก เป็นเมืองที่สะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของชาวมายันในอดีตกาล ก่อนที่เมืองจะล่มสลายจากการปะทุและพ่นลาวาของภูเขาไฟคาลเดอร่า (Caldera volcano) เมื่อ 1,400 ปีก่อน ทำให้เมืองแห่งนี้แทบจะสูญหายไปจากโลกเฉกเช่นเดียวกับเมืองปอมเปอีของอิตาลี นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ที่เก็บโบราณวัตถุมีค่า หลังจากได้มีการขุดพบข้าวของเครื่องใช้ต่างๆในบริเวณนี้ จากนั้นนำท่านชมเมืองโบราณโฮยา เด เซเรน ที่ยังคงหลงเหลือร่องรอยความเจริญของช่าวมายันในอดีตอยู่บ้าง อิสระให้ท่านได้เก็บภาพโบราณสถานที่สำคัญภายในเมืองโบราณแห่งนี้ ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมือง ซัล ซาวาดอร์ เมืองหลวงของประเทศเอล ซัลวาดอร์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Barcelo Hotel San Salvador **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านชมเมืองซาน ซัลวาดอร์ (Sal Savador) เมืองหลวงของประเทศเอล ซัลวาดอร์ (El Salvador) เป็นเมืองทันสมัยและใหญ่เป็นอันดับที่สองในอเมริกากลาง การขยายตัวของจำนวนผู้คนระหว่างสงครามและภายหลังสงครามทำให้เกิดเขตนครหลวงซานซัลวาดอร์ (AMSS: Area Metropolitana de San Salvador) ซานซัลวาดอร์เป็นศูนย์กลางการขนส่งและเศรษฐกิจของชาติ นอกจากนี้ทางหลวงแพน-อเมริกาได้ตัดผ่านและเชื่อมเมืองนี้เข้ากับเขตเมืองอื่นๆ ของอเมริกากลางและสหรัฐอเมริกา ย่านกลางกรุงซานซัลวาดอร์สมัยใหม่มีตึกระฟ้าสูงมากมาย และเหลือพื้นที่ทางประวัติศาสตร์อยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากเหตุแผ่นดินไหวที่ทำลายเมือง ตั้งแต่ที่เมืองนี้ได้รับการจัดตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1525 โดยเปโดร เด อัลบาราโด ผู้พิชิตชาวสเปน ปัจจุบันเมืองนี้ผลิตเบียร์ ยาสูบ สิ่งทอ และสบู่ นำท่านเที่ยวชมและแวะถ่ายรูปกับอาคารสถาปัตยกรรมโบราณที่ยังคงหลงเหลือในเขตเมืองเก่าของซานซัลวาดอร์ ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ประจำเมือง (Metropolitan Cathedral of San Salvador) ซึ่งพระสันตะปาปา จอห์นปอลที่ 2 ได้เสด็จเยือนโบสถ์นี้ถึง 2 ครั้ง และยังเป็นสถานที่ฝังพระศพของอาร์ชบิชอป ออสการ์ โรมิโร, อาคารพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ, โรงละครแห่งชาติ จากนั้นนำท่านเดินชมหมู่อาคารบริเวณจัตุรัสพลาซ่า เอลซัลวาดอร์ เดล มุนโด (Plaza El Salvador del Mundo) อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของหมู่อาคารต่างๆตามอัธยาศัย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองซูชิโตโต (Suchitoto) ซึ่งได้รับสมญานามว่า “เมืองแห่งดอกไม้และนก” (Flower Bird city) เป็นเมืองที่มีธรรมชาติอันบริสุทธิ์และอุดมไปด้วยดอกไม้ นกนานาพันธุ์ นำท่านเดินทางสู่เกาะนก (Bird Island) ซึ่งตั้งอยู่ภายในทะเลสาบซูชิลาน (Suchitlan Lake) นำท่านชมธรรมชาติและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเกาะแห่งนี้ ที่มีการผลิตเสื้อผ้าสีสันต่างๆโดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ศูนย์ศิลปะ (Centro de Arte Por La Paz) ซึ่งได้มีการรังสรรค์ผลงานศิลปะในรูปแบบต่างๆ อิสระให้ท่านได้เลือกชมและซื้อสินค้าหัตถกรรมที่ผลิตโดยภูมิปัญญาชาวบ้านตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านชมเมืองและถ่ายรูปกับโบสถ์แซนตาลูเซีย (Santa Lucia Church) และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆแห่งเมืองซูชิโตโต ได้เวลานำท่านกลับเมืองซัล ซาวาดอร์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Barcelo Hotel San Salvador **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
06.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินซาน ซัลวาดอร์ เพื่อเชคอิน
08.30 น. ออกเดินทางจากสนามบินซาน ซัลวาดอร์ สู่สนามบินมานากัว โดยเที่ยวบิน …. (ใช้เวลาบิน 55 นาที)
09.25 น. เดินทางถึงสนามบินมานากัว ประเทศนิคารากัว นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
นำท่านเดินทางสู่เมืองเลออง (Leon) อดีตเมืองหลวงแห่งนิการากัวและได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO World Heritage) และเป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมโบราณในยุคอาณานิคมที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเที่ยวชมเมืองเลออง (Leon) เมืองที่ถูกค้นพบโดย ฟรานซิสโก เฮอนันเดซ เดอ คอร์โดบา (Francisco Hernandez de Cordoba) ในปี ค.ศ. 1524 และยังเป็นเมืองที่มีทัศนียภาพสวยงามยิ่ง เนื่องจากตั้งอยู่บริเวณทะเลสาบโซลอทลาน (Xolotlan) และมีภูเขาไฟโมโมตอมโบ (Momotombo Volcano) เป็นฉากหลัง เมืองเลอองเรียกได้ว่าเป็นเมืองแห่งแรกของอเมริกากลาง (First city of Central America) และยังเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก (UNESCO World Heritage) นำท่านเที่ยวชมเมืองและถ่ายรูปกับโบสถ์ประจำเมือง (Main Church) ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “โบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกากลาง” (Largest Church in Central America) จากนั้นนำท่านชมจตุรัสใจกลางเมือง (Main Square) และเก็บภาพหมู่อาคารเก่าแก่ที่ได้รับอิทธิพลแบบสถาปัตยกรรมของสเปนที่ยังคงความสวยงามและบ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ของสเปน ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นเจ้าอาณานิคมในยุคนั้น นำท่านเที่ยวชมเขตเมืองเก่าแห่งเลออง (Old town) พร้อมนำท่านชมบ้านของคีตกวีเอกแห่งเมืองเลออง “รูเบน ดาริโอ” (Ruben Dario) ซึ่งเป็นกวีเอกของเมืองนี้ หลังจากที่ท่านเสียชีวิต ร่างท่านได้รับเกียรติให้ฝังไว้ ณ วิหารแห่งเมืองเลออง (Leon’s Cathedral)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก El Convento Hotel**** หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองมานากัว (Managua) เมืองหลวงปัจจุบันของประเทศนิการากัว ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในอเมริกากลาง เมืองมานากัว ได้รับการตั้งเป็นเมืองหลวงในปี ค.ศ. 1855 ก่อนหน้านี้ที่ตั้งเมืองหลวงย้ายไปมาระหว่างเมืองเลอองกับเมืองกรานาดา นำท่านเที่ยวชมเมืองมานากัว นำท่านชมจตุรัสเรวาลูชั่น (Plaza de la Revolucion) ซึ่งเป็นจัตุรัสใจกลางเมืองและเป็นสถานที่ประกาศอิสรภาพของชาวนิการากัวในอดีต บริเวณจัตุรัสแห่งนี้รายล้อมไปด้วยหมู่อาคารสถาปัตยกรรมโบราณที่มีความสวยงามสมบูรณ์ยิ่ง อิสระให้ท่านได้เก็บภาพหมู่อาคารโบราณหลากสีตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินชมเขตเมืองเก่าที่ยังคงหลงเหลือกลิ่นอายในแบบอารยธรรมสเปน นำท่านชมโบสถ์แห่งเมืองมานากัว (Antigua Cathedral de Managua) จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับอาคารศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติ (National Palace of Culture) อิสระให้ท่านได้เก็บภาพบรรยากาศเมืองเก่าแห่งมานากัวตามอัธยาศัย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติภูเขาไฟมาซายา (Masaya Volcano National Park) ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศนิการากัว และยังเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟมาซายา (Masaya Volcano) ที่ยังคงคุกรุ่นและมีควันพวยพุ่งออกมาเป็นระยะๆในบริเวณปากปล่องภูเขาไฟ นำท่านสัมผัสกับประสบการณ์ชมปากปล่องภูเขาไฟมาซายา หากโชคดีท่านจะได้เห็นกลุ่มควันที่มีการพ่นออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟแห่งนี้ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้น
นำท่านเดินทางสู่เมืองกรานาดา (Granada) เมืองสำคัญลำดับที่หก ของประเทศนิการากัว เป็นเมืองทางตอนใต้ของประเทศที่ได้ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1524 โดย ฟรานซิสโก เฮอนันเดซ เดอ คอร์โดบา (Francisco Hernandez de Cordoba) และเป็นเมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองยุโรปแห่งแรกบนผืนแผ่นดินใหญ่อเมริกา (First European city in mainland America) และยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองอาณานิคมเก่าแก่ที่สุดในนิการากัว เมืองกรานาดาได้รับอิทธิพลการสร้างเมืองและหมู่อาคารสถาปัตยกรรมแบบแขกมัวร์ในแบบสเปน นำท่านชมเมืองที่มีหมู่อาคารโบราณสวยงามมากซึ่งได้รับอิทธิพลการก่อสร้างแบบสเปน จากนั้นถ่ายรูปบริเวณจัตุรัสใจกลางเมือง และแวะถ่ายรูปกับมหาวิหาร กรานาดา (Granada Cathedral) ซึ่งตั้งเด่นตระหง่านคู่เมืองนี้
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Gran Fracia Hotel **** หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองเปนัส บลังคัส (Penas Blancas) เมืองชายแดนที่เชื่อมต่อกันระหว่างประเทศคอสตาริกา และ นิการากัว เมืองนี้เป็นจุดข้ามพรมแดนระหว่างสองประเทศ ระหว่างการเดินทางจากเมืองอารีนอลสู่เมืองเปนัส บลังคัส ท่านจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของประเทศคอสตาริกา ไม่ว่าจะเป็นป่าฝน, ต้นไม้ใหญ่ริมสองฝั่งถนน หรือไร่กาแฟ อันเป็นพืชเศรษฐกิจหลักที่ส่งออกทั่วโลก เมื่อถึงเมืองเปนัส บลังคัส นำทุกท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และ ผ่านด่านสู่ประเทศคอสตาริกา
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองน้ำแร่ร้อนบอลดิ (Baldi Thermal water) แห่งภูเขาไฟอารีนอล (Arenal Volcano) ซึ่งเป็น ภูเขาไฟในเขตจังหวัด Alajuela จัดเป็นภูเขาไฟที่สวยงามและทรงพลังที่สุดในประเทศคอสตาริกา มีความสูงประมาณ 1,657 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล สำหรับลักษณะทางธรณีวิทยาผู้เชี่ยวชาญ ถือว่าอารีนอล เป็นภูเขาไฟที่ยังอายุไม่มากไม่น่าเกิน 7,000 ปี โดยการปะทุใหญ่ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี ค.ศ.1968 การระเบิดของภูเขาไฟได้เกิดเถ้าถ่านตะกอนและลาวาทำลายเมือง Tabacón เมืองเล็กๆ ในเขตภูเขาไฟ จากการระเบิดในครั้งนั้นได้ก่อให้เกิดปล่องภูเขาไฟใหม่เกิดขึ้นอีก 3 ปล่อง ทางด้านข้างทิศตะวันตก โดยหนึ่งในปล่องภูเขาไฟก็ยังคงมีการปะทุเล็กน้อยอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้จากการปะทุในครั้งนั้นบริเวณรอบเขตภูเขาไฟกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เพราะมีทั้งป่าฝนที่อุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยสัตว์ป่าจำนวนมาก รวมถึงแหล่งน้ำแร่จำนวนมากจนส่งผลให้กลายเป็นแหล่งอาบน้ำแร่ชื่อดังระดับโลก อิสระให้ท่านได้พักผ่อนหรือแช่น้ำแร่ตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Baldi Hotspring Resort & Spa Hotel **** หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่วนอุทยานแห่งชาติภูเขาไฟโพส (Poas Volcano National Park) ซึ่งมีปากปล่องภูเขาไฟ 2 ปล่องคือ ทางตอนเหนือจะเป็นปากปล่องภูเขาไฟที่ยังคงคุกรุ่นซึ่งเรียกว่า “Hot Lagoon” เป็นภูเขาไฟที่ยังกรุ่นๆมีไอน้ำพวยพุ่งตลอดเวลา ภูเขาไฟแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของวนอุทยานแห่งชาติ และทางตอนใต้เป็นปากปล่องภูเขาไฟที่เคยปะทุเมื่อ 7,500 ปีก่อนคริสตกาล ปัจจุบันเป็นทะเลสาบโบโทส (Botos Lagoon) นำท่านชมความสวยงามของโบโทสลากูน ซึ่งเป็นปากปล่องภูเขาไฟที่มิได้มีการปะทุในปัจจุบัน อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของภูเขาไฟตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ไร่กาแฟโดกา (Doka Coffee Plantation) ให้ท่านได้มีโอกาสลิ้มรสชาติของกาแฟคอสตาริกาอันเลื่องชื่อ ให้ท่านได้เก็บภาพทัศนียภาพไร่กาแฟอันกว้างใหญ่
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมือง ซานโฮเซ (San Jose) นำท่านชมเมืองซานโฮเซ (San Jose) เมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศคอสตาริกา ซานโฮเซเดิมมีฐานะเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ ของชุมชนจนกระทั่งในปี ค.ศ. 1824 ในปีนี้เองคอสตาริกาได้มีการเลือกตั้งประมุขแห่งรัฐครั้งแรก ฮวน โมรา เฟร์นันเดซ ตัดสินใจย้ายที่ตั้งรัฐบาลจากเมืองการ์ตาโก ซึ่งเป็นเมืองหลวงสมัยที่เป็นอาณานิคมของสเปน มาเริ่มต้นใหม่ที่ซานโฮเซแห่งนี้ นำท่านสู่ย่านบาริโอ เอมอน (Barrio Amon) ซึ่งเป็นย่านที่มีคฤหาสน์และอาคารสมัยวิคตอเรียที่ยังคงความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง อาคารส่วนใหญ่สร้างขึ้นจากความมั่งคั่งในการค้าขายกาแฟและยังมีไร่ “กาแฟทอง” ที่รายรอบเมือง นำท่านถ่ายรูปกับอาคารโบราณซึ่งยังคงความสวยงามในแบบสไตล์วิคตอเรียน จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับโรงละครแห่งชาติ (National Theatre) อาคารรัฐสภา (Parliament) และนำท่านเดินทางสู่สวนสาธารณะซาบานา (Parque Sabana) ปอดของชาวเมืองซานโฮเซ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Park Inn by Radisson San Jose Hotel **** หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
06.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินซานโฮเซ เพื่อเชคอิน
08.42 น. ออกเดินทางจากสนามบินซานโฮเซ สู่สนามบินปานามาซิตี้ โดยเที่ยวบิน …. (ใช้เวลาบิน 1.20 ชั่วโมง)
11.00 น. เดินทางถึงสนามบินปานามาซิตี้ ประเทศปานามา นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านเที่ยวชมกรุงปานามาซิตี้ (Panama city) เดิมปานามาเคยตกเป็นอาณานิคมของสเปน ได้รับเอกราชในปี ค.ศ. 1821 ภายหลังได้รวมกับโคลัมเบีย เวเนซุเอลา และเอกวาดอร์ เป็นสาธารณรัฐ จนเมื่อปี ค.ศ. 1903 จึงได้แยกประเทศ โดยมี “ปานามา ซิตี้” เป็นเมืองหลวงนำท่านเที่ยวชมย่านเมืองเก่าที่เรียกว่า Casco Viejo ซึ่งปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี 1997 นำท่านชมเมืองเก่าบริเวณ ซานฟิลิป (San Felipe) ซึ่งมีอาคารบ้านเรือนรูปแบบโคโลเนียล สไตล์สเปน สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1519 เมื่อพวกสเปนเข้ามายึดครอง นำท่านชมโบสถ์เก่าแก่ , ย่านจตุรัสกลางเมือง อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของเมืองและเลือกซื้อของฝากของที่ระลึก ได้เวลานำท่านชมเส้นทางอมาดอร์ คอสเวย์ (Amador Causeway) ซึ่งเป็นเหมือนสะพานที่สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อระหว่างเกาะ 3 เกาะ คือ เกาะเนาส์, เกาะเปอร์ริโก, เกาะฟลาเมนโก เป็นทางเชื่อมที่สร้างด้วยความยาวกว่า 3 กิโลเมตร และมีทัศนียภาพที่สวยงามมากอีกแห่งของปานามา
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น พร้อมชมการแสดงพื้นเมือง
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Las Americas Golden Tower **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 2)
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองโคลอน (Colon) นำท่านชมป้อมปราการซานโลเรนโซ่ (San Lorenzo Fort) ตั้งอยู่ในเมืองโคลอน ซึ่งป้อมปราการสเปนแห่งนี้จัดเป็นป้อมปราการที่เก่าแก่ที่สุดในอเมริกา ป้อมแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1597 เพื่อป้องกันการกัดเซาะตลิ่งของแม่น้ำชาเกรส (Chagres) ซึ่งเป็นปากอ่าวแม่น้ำก่อนนำเรือเข้าสู่ท่าเรือเวนตา เดอ ครูเชส (Venta de Cruces) ล่องจนถึงเมืองปานามาซิตี้ (Panama city) ณ ป้อมแห่งนี้เป็นที่ตั้งของอาวุธยุทโธปกรณ์ทางการทหาร และได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกเป็นมรดกโลกในปี 1980
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่คลองปานามา ณ ประตูกั้นน้ำ (Gatun Locks) นำท่านชมนิทรรศการ เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของคลองปานามา ซึ่งเป็นคลองเดินเรือสมุทรความยาว 77 กิโลเมตร สร้างขึ้นบริเวณคอคอดปานามาในประเทศปานามาเพื่อเชื่อมมหาสมุทรแปซิฟิกกับมหาสมุทรแอตแลนติกเข้าด้วยกัน ซึ่งช่วยย่นระยะเวลาที่ต้องไปอ้อมช่องแคบเดรกและแหลมฮอร์น ทางใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้ คิดเป็นระยะทางกว่า 22,500 กิโลเมตร ซึ่งมีผลอย่างยิ่งต่อการเดินเรือระหว่างสองมหาสมุทร โดยถูกใช้เป็นเส้นทางเดินเรือหลักสำหรับการค้าทางทะเลระหว่างประเทศ ตั้งแต่เปิดทำการคลองปานามาประสบความสำเร็จและเป็นกุญแจสำคัญในการขนส่งสินค้า
15.30 น. นำท่านเดินทางกลับสู่กรุงปานามาซิตี้ เพื่อเชคอิน
17.30 น. นำท่านเช็คอิน ณ เคาน์เตอร์สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส
20.10 น. ออกเดินทางจากสนามบินปานามา สู่ สนามบินอิสตันบูล โดยเที่ยวบินที่ TK800
(ใช้เวลาบินประมาณ 12.40 ชั่วโมง) บริการอาหาร เครื่องดื่ม และพักผ่อน บนเครื่องบิน
********* บินข้ามเส้นแบ่งเขตเวลาสากล *******
16.50 น. เดินทางมาถึงสนามบินอิสตันบูล แวะเปลี่ยนเครื่อง
อิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม และ ของฝาก ณ สนามบินอิสตันบูล
01.45 น. ออกเดินทางสู่ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ TK68 (ใช้เวลาบิน 9.40 ชั่วโมง) สายการบินมีบริการอาหารค่ำ และ อาหารเช้าระหว่างเที่ยวบิน
15.25 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)
ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นนักท่องเที่ยวโดยสายการบิน TK/ CM/ TA/ (กระเป๋าเดินทาง นน. ไม่เกิน 23 กก./ท่าน)
ค่าภาษีสนามบิน, ภาษีน้ำมัน, ค่าประกันภัยทางอากาศ
ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,500,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาท
ค่ารักษาพยาบาลหลังกลับจากต่างประเทศภายใน 21 วัน วงเงิน 40,000 บาท (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 85 ปี)
ค่าที่พักตลอดการเดินทาง
ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ, ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่ ตามระบุในรายการ
เจ้าหน้าที่ (ไกด์ไทย) คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
ค่าทิปต่างๆ
ค่าวีซ่าอเมริกา ประมาณ 9,000 บาท
ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์-แฟกซ์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ
ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
หมายเหตุ :
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทาง ต่ำกว่า 10 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันก่อนการเดินทาง
บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน การนัดหยุดงาน การประท้วง ภัยธรรมชาติ การก่อจลาจล อุบัติเหตุ ปัญหาการจราจร ปัญหาการเสริฟ์ช้าของร้านอาหาร หรือ เหตุใดๆที่อยู่เหนือการควบคุมของบริษัท ฯลฯ ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด และหากหัวหน้าทัวร์ไม่ได้ดำเนินการทำทัวร์ตามโปรแกรม ท่านต้องแย้งและเรียกร้องสิทธิ์ในรายการนั้น หากท่านไม่มีการแย้งใดๆ ถือว่าท่านยอมรับการทำทัวร์ดังกล่าว
เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฏิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง
บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฏิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง เนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง
ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู
เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น
55/93 แขวง บางขุนเทียน เขต จอมทอง จังหวัด กรุงเทพมหานคร 10150