23.00 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 10 ROW U เคาน์เตอร์ สายการบินเอมิเรตต์ Emirate Airline (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการเช็คอินให้แก่ทุกท่าน
02.00 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเที่ยวบินที่ EK 377 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
06.00 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ (เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง)
08.25 น. ออกเดินทางสู่ เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยเที่ยวบินที่ EK087
12.25 น. เดินทางถึงเดินทางถึง สนามบินซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (Luzern) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) หนึ่งในเมืองที่งดงามที่สุดของประเทศ ด้วยความที่ลูเซิร์นเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในภาคกลางของประเทศ ทำให้ลูเซิร์นกลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ, การคมนาคม, ทางวัฒนธรรม ของภาคกลาง ภาษาทางการที่ใช้ในลูเซิร์นคือภาษาเยอรมัน
นำท่านถ่ายรูปกับ อนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงทหารหาญชาวสวิสผู้ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่จนวินาทีสุดท้าย อนุสาวรีย์นี้คือสัญลักษณ์สำคัญของลูเซิร์นที่ไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนพลาดมาที่นี่
นำท่านชม สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) อันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง และได้ชื่อว่าเป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ทอดยาวระหว่างแม่น้ำ Reuss โดยสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 จากนั้น ให้ท่านได้ชมความงามของสถาปัตยกรรมรอบๆตัวเมืองใน เขตเมืองเก่า (Oldtown) ด้วยตัวอาคารสไตล์ยุโรปผนวกกับร้านสมัยใหม่ ทำให้เป็นหนึ่งในความวิเศษของเขตนี้
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก Hotel Astoria หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นเดินทางสู่ เมืองแองเกิลเบิร์ก (Engelberg) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) พาท่านขึ้นสู่ ยอดเขาทิสลิส (Titlis) โดยกระเช้าหมุนแบบ 360 องศา ที่ความสูง 3,239 เมตร เข้าชม ถ้ำน้ำแข็ง (Ice Grotto) ที่ไม่เคยละลาย ชมทิวทัศน์ของยอดเขาต่างๆ ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะอันขาวโพลนสร้างความงดงามให้กับขุนเขาเป็นอันมาก
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่าน ตามรอย สหายผู้กองและยุนเซรี ซีรี่ย์เกาหลีชื่อดัง Crash Landing On You ที่ หมู่บ้านอิเซลท์วอลด์ (Iseltwald) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) หมู่บ้านสไตล์สวิสชาเล่ต์ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) สวยงามจนได้รับฉายาว่า “ไข่มุกแห่งทะเลสาบเบรียนซ์”
จากนั้นเดินทางต่อไปยัง เมืองอินเทอลาเก้น (Interlaken) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที) จุดศูนย์กลางของประเทศ ที่รายล้อมไปด้วย 4 ขุนเขา และ 2 ทะเลสาบ พาท่านเดินชม ความงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเมือง พาท่านเดินชม ถนน Hoheweg จุดที่ครึกครื่นที่สุดในเมืองอินเทอลาเก้น ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าคุณภาพสวิสได้อยากหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Omega, Swatch ช็อคโกแลตสวิสที่ขึ้นชื่อ หรือแม้แต่เสื้อผ้า เครื่องประดับก็ยังมีให้ท่านเลือกสรรได้ตลอดถนนเลยทีเดียว
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น พิเศษ! เมนูสวิสฟองดู 3 ชนิด ชีส ออย และช็อกโกแล็ต แบบจัดเต็ม
ที่พัก Hotel Metropole หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรินเดลวาลด์ เฟียร์ส (Grindelwald First) Top of adventure หนึ่งในยอดเขายอดนิยมที่มีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในสวิส มีความสูง 2,168 เมตรจากระดับน้ำทะเล เส้นทางบนยอดเขา Grindelwald First มีเส้นทางเดินเขามากมาย ที่นี่ยังมีกิจกรรมผจญภัยอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสยายปีกบินสูงไปกับนกอินทรี รถคาร์ตภูเขา First Flyer Trottibike Scooter สกีและสโนว์บอร์ด หรือเดินเลาะริมผาสูงชัน
นำท่านขึ้น กระเช้าเคเบิ้ลคาร์ CABLE CAR สู่ ยอดเขาเฟียสต์ อิสระให้ท่านเดินชมวิวกับ สะพาน First Cliff Walk by Tissot ที่เป็นทางเดินวนเลียบริมผาทางด้านตะวันตกของยอดเขาเฟียสต์และสถานีของยอดเขา เป็นสะพานที่ยื่นออกจากริมหน้าผาสูงให้เห็นวิวทิวทัศน์ตระการตาบริเวณจุดชมวิวพาโนราม่า หรือเลือกอิสระตามอัธยาศัย
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขาให้ท่านเต็มอิ่มกับบรรยากาศของทิวทัศน์สุดอลังการแบบวิวพาโนราม่า
นำท่านเดินทางสู่ เมืองบาเซิล (Basel) (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) บาเซิลเป็นเมืองพรมแดนสวิส เยอรมัน ฝรั่งเศส มาบรรจบกัน บาเซิลมักถูกมองว่าเป็นเมืองหลวงทางวัฒนธรรมของสวิตเซอร์แลนด์ มีชื่อเสียงในด้านพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง นำท่านผ่านชม พิพิธภัณฑ์ Kunstmuseum เป็นที่รวมผลงานศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งด้านในมีผลงานของนักจิตรกรชื่อดังระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Van Gogh , Monet, Picasso
นำท่านชม เมืองเก่าบาเซิล (Basel Old Town) หรือ Altstadt Altstadt เป็นภาษาเยอรมันแปลว่าเมืองเก่า หรือหมายถึงเมืองประวัติศาสตร์หรือใจกลางเมืองภายในเมืองเก่าหรือกำแพงเมือง อาคารที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองเก่าสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ถ่ายรูปด้านนอกกับ บาเซิลมินสเตอร์ (Basel Minster) เป็นอาคารทางศาสนาในเมืองบาเซิลของสวิสเดิมเป็นมหาวิหารคาทอลิกและปัจจุบันเป็นคริสตจักรโปรเตสแตนต์ที่ได้รับการปฏิรูป มหาวิหารเดิมถูกสร้างขึ้นระหว่าง 1019 และ 1500 ในโรมันและโกธิครูปแบบ ปลายโรมันอาคารถูกทำลายโดยแผ่นดินไหวที่เกิดที่เมืองบาเซิล เมื่อปี1356 และได้รับการสร้างขึ้นมาใหม่ เป็นอาคารที่สวยงามตระการตาด้วยผนังหินทรายสีแดงอมชมพูและหลังคาที่มีลวดลายเป็นกระจก ผ่านชม ศาลากลางบาเซิล (City Hall of Basel) มีอายุมากกว่า 500 ปี ที่ตั้งอยู่ใจกลางจัตุรัส Marktplatz อิสระให้ท่านเดินชมเมืองและช้อปปิ้งย่านจัตุรัส Marktplatz ถนนสายหลักของบาเซิลที่ขนาดไม่ใหญ่มากนักแต่มีร้านค้ามากมาย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
ที่พัก Novotel Basel City หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ กอลมาร์ (Colmar) (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) หนึ่งในสถานที่ที่ผู้คนขนานนามว่า ดินแดนแห่งเทพนิยาย ด้วยตัวบ้านเรือนนั้นยังคงรูปแบบงานก่อสร้างแบบที่เรียกว่า Half Timber ที่เป็นที่นิยมในยุคกลาง โดยจะใช้ไม้สร้างเป็นโครงบ้าน และนำปูนมาถมส่วนที่เหลือ เพื่อเป็นการประหยัดไม้ ทำให้ต้นทุนการสร้างถูกลง อิสระให้ท่านได้เดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านเทพนิยาย ริคเวียร์ (Riquewihr) อีกหนึ่งหมู่บ้านสุดน่ารักในแคว้น Alsace เป็นหนึ่งใน Les Plus Beaux Villages de France หรือหมู่บ้านที่สวยที่สุดของฝรั่งเศส ลักษณะอาคารเป็นแบบครึ่งตึกครึ่งไม้ มีการทาสีตัวบ้านให้สดใส ถูกรักษาเอาไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 หมู่บ้านนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของถนนแห่งไวน์เช่นกัน อิสระให้ท่านได้เดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
จากนั้นมุ่งหน้าสู่อีกหนึ่งเมืองใหญ่ของแคว้น เมืองสทราซบูร์ (Strasbourg) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอีล เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น มหาวิหารมหาวิหารนอร์ทเทรอดามแห่งสตราสบูร์ก มหาวิหารนิกายโรมันคาทอลิกขนาดใหญ่ที่ได้ชื่อว่าสูงตระหง่านที่สุดในยุโรปตะวันตก ความสวยงามของสถาปัตยกรรมยุคกลางสไตล์กอธิก ย่าน Petite-France หรือ Little France เป็นย่านที่คล้ายเกาะเล็กๆ อยู่ในตัวเมืองสตราสบูร์กและได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกอีกด้วย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
ที่พัก Mercure Strasbourg Centre หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)
เช้าบริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินสู่ เมืองแร็งส์ (Reims) (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) เมืองแร็งส์ก่อตั้งขึ้นโดยกอลและกลายมาเป็นเมืองสำคัญระหว่างสมัยจักรวรรดิโรมัน ต่อมาแร็งส์ก็มามีบทบาทสำคัญต่อราชบัลลังก์ฝรั่งเศสในการเป็นสถานที่สำหรับการทำพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระมหากษัตริย์ฝรั่งเศสที่มหาวิหารนอเทรอดามแห่งแร็งส์
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเดินทางสู่ เอาท์เล็ท ลาวาเล่ (La Vallée Village) (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) แหล่งช้อปปิ้งที่รวมร้านค้าแบรนด์เนมดังมากมายกว่า 70 ร้าน สัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้ง ที่ครบครันด้วยสินค้าชั้นนำต่างๆ มากมาย เช่น Celine, Kenzo, Longchamp, Polo, Blanc Bleu, Francois Girbaud, Paul Smith, Burberry, Valentino, Versace, Kevin Klein, Diesel, Samsonite, Armani, Cerruti, Dolce & Gabbana, Givenchy ฯลฯ อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
ค่ำ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน
นำท่านเดินทางสู่ กรุงปารีส (Paris) เมื่องหลวงสุดโรแมนติกของประเทศฝรั่งเศส หนึ่งในจุดหมายปลายทางในฝันของใครหลายๆ คนที่แม้กระทั่งชาวฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่นอกเมืองหรือต่างจังหวัด หรือต่างแคว้นแดนไกล กล่าวว่าตราบใดที่มีลมหายใจ ก็ขอให้ได้เห็นมหานครปารีสสักครั้ง จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
ที่พัก Mercure Paris La Defense หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Musée du Louvre) อดีตพระราชวังหลวงที่ปัจจุบันเป็นสถานที่เก็บและจัดแสดงสมบัติล้ำค่ากว่า 35,000 ชิ้น เช่น ภาพวาดโมนาลิซ่า, มาดอนน่า ออฟ เดอะ ร๊อค, ภาพวาดพระราชพิธีปราดาภิเษกของจักรพรรดินโปเลียน, รูปปั้นเทพไนกี้ และรูปปั้นเทพวินัสแห่งมิโล เป็นต้น
จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้นั้นคือพีระมิดแก้วที่เป็นทางเข้าด้านหน้า ที่ออกแบบโดย ไอ.เอ็ม.เป. สถาปนิกชื่อดังชาวจีน-อเมริกัน ภายในพิพิธภัณฑ์ออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ ส่วนแรกคือ Richelieu ทางทิศเหนือ ส่วนที่สอง Sully เป็นอาคารสี่เหลี่ยมทางทิศตะวันออก และส่วนที่สาม Denon ทางทิศใต้ขนานกับแม่น้ำแซน แต่ละปีกมีห้องพักมากกว่า 70 ห้องแสดงภาพวาดและงานศิลปะรวมทั้งมีห้องโถงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยประติมากรรม จุดที่นักท่องเที่ยวสนใจมากเป็นพิเศษจะอยู่ที่ ภาพเขียน Mona Lisa ที่มีรอยยิ้มอันลึกลับที่โด่งดัง สร้างขึ้นโดย Leonardo da Vinci เป็นงานศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุดของพิพิธภัณฑ์
นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญที่มีชื่อเสียงของพิพิธภัณฑ์อีกมากมายอย่างเช่น ภาพเขียนงานแต่งงานที่คานา (The Wedding at Cana), รูปปั้นเทพีวีนัส (Venus de Milo), รูปปั้นเทพีไนกี้แห่งซาโมเทรซ (The Winged Victory of Samothrace), ภาพพิธีบรมราชาภิเษกของจักรพรรดินโปเลียน (Coronation of the Emperor Napoleon), เสรีภาพนำทางชาวประชา (Liberty Leading the People) และยังมี ห้องชุดของนโปเลียนที่ 3 (Apartments of Napoleon III) ภายในห้องแตกแต่งอย่างหรูหรา ชุดเก้าอี้ โซฟา สีสันสดใสของผ้ากำมะหยี่สีแดงและสีทอง โคมไฟระย้าขนาดใหญ่ ภาพวาดบนเพดานที่สวยงาม และรูปปั้นประดับตกแต่งอย่างงดงาม
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ร้านเบนลักซ์ (Benlux) ร้านค้าปลอดภาษีที่มีทั้ง กระเป๋า รองเท้า นาฬิกา น้ำหอม เครื่องสำอาง และเครื่องประดับให้ท่านได้เลือกซื้อ
ห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางกรุงปารีส ณ แกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (GALERIES LAFAYETTE)
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น พร้อมเมนูพิเศษ หอยเอสคาโก้ ต้นตำหรับฝรั่งเศส
ที่พัก Mercure Paris La Defense หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางไปยัง ปาแลเดอชาโย หรือจัตุรัสทรอกาเดโร (Palais de Chaillot) อาคารขนาดใหญ่สร้างขึ้นเพื่อจัดนิทรรศการ งานแสดงศิลปะต่างๆ อยู่บนเนินเขาตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามหอไอเฟล เป็นจุดชมหอไอเฟลแบบมุมกว้าง และอยู่คนละฝั่งของแม่น้ำแซน เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเพื่อเก็บภาพบรรยากาศของหอไอเฟล
ให้ท่านได้ชมทัศนียภาพที่ท่านจะสามารถเห็น หอไอไฟล (Eiffel) ได้อย่างไม่มีอะไรมาบดบัง โดยหอส่งสัญญาแห่งนี้นั้น ถือเป็นสัญลักษณ์ของพาปารีสที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง แต่ด้วยลักษณะที่แปลกตา สร้างความไม่คุ้นเคยต่อชาวปารีส ถึงขนาดมีการเรียกร้องให้รื้อทิ้งหลังจากงานสิ้นสุดลง แต่หอไอเฟลก็สามารถพิสูจน์ตัวเองและลบคำสบประหม่า จนกลายเป็นสถานที่แรกๆ ที่เมื่อมีคนพูดถึงปารีสพิเศษ !! พาท่านล่องเรือแม่น้ำแซน ชมบรรยากาศรอบเมืองปารีส เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน เมืองที่โรแมนติกที่สุดของโลกในอีกมุมหนึ่งโดยในระหว่างทางนั้นจะผ่านสถานที่สำคัญๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น สะพาน Pont de l'alma สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 พิพิธภัณฑ์ออร์แซ และอีกมากมายถือเป็นอีก 1 กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาปารีส
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
นำท่านท่านถ่ายรูปกับ ประตูชัยอาร์กเดอทรียงฟ์ (Arc de Triomphe) วงเวียนที่เชื่อมถนน12 เส้นของปารีสไว้ โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นสดุดีทหารฝรั่งเศสที่ร่วมรบในสงครามต่างๆ โดยเฉพาะในสงครามนโปเลียน เนื่องจากเริ่มสร้างในรัชสมัยของพระองค์หลังได้รับชัยชนะในสงครามยุทธการที่เอาสเทอร์ลิทซ์ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 1805 นอกเหนือจากนั้น ประตูชัยแห่งนี้ก็ยังเป็นที่ฝังศพทหารนิรนามในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 อีกด้วย
ถัดไปไม่ไกลนั่นคือ ถนนช็องเซลีเซ (Champs-Élysées) ถนนที่ได้ชื่อมาจากสวนสวรรค์ของเหล่าเทพปกรนัมกรีก ในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของการขยายพื้นที่สวยหย่อมของพระราชวังตุยเลอรี โดยเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสยุโรป ทรงมีพระราชดำรัสให้นำรูปแบบถนนช็องเซลีเซ มาสร้างเป็นถนนพระราชดำเนินกลางในกรุงเทพมหานคร ว่ากันว่าอัตราค่าเช่าพื้นที่บนถนนแห่งนี้มีมูลค่าสูงที่สุดในยุโรป
จากนั้นนำท่านชม จัตุรัสคองคอร์ด หรือ ปลัส เดอ ลา กงกอร์ (Place de la Concorde) สร้างในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 เป็นจัตุรัสกลางกรุงปารีสที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ทั้งสงครามกลางเมืองและการปฏิวัติการปกครองของฝรั่งเศส จัตุรัสแห่งนี้มีจุดเด่นที่สำคัญคือ เสาหินโอเบลิสก์ (Obelisk) ซึ่งมีอายุกว่า 3,500 ปี ถูกสร้างขึ้นในสมัยของฟาโรห์ทุตโมสที่ 3 เดิมเคยตั้งอยู่ในมหาวิหารคาร์นัก ลักษณะเป็นเสาหินขนาดใหญ่ที่มีจุดเด่นเป็นเสาปลายแหลม แกะสลักจากหินแกรนิตสีชมพู ความสูงของมันคือ 23 เมตรน้ำหนัก - 230 ตัน ทั้งสี่ด้านถูกปกคลุมด้วยอักษรอียิปต์โบราณเพื่อยกย่องฟาโรห์รามเสสที่ 2 และรามเสสที่ 3
เย็น อิสระอาหารเย็น เพื่อความสะดวกและไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้งของท่าน
จนกระทั่งได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส ชาร์ล เดอ โกลด์ เพื่อทำการเช็คอิน และทำคืนภาษี (TAX REFUND)
21.35 น. ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสายการบินเอมิเรตต์ เที่ยวบินที่ EK76 **บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง **
07.20 น. เดินทางถึง สนามบินนานาชาติดูไบ (เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง)
09.30 น. เดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเอมิเรตต์ เที่ยวบินที่ EK 372
18.45 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม
วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ | |
---|---|---|---|---|
30 ธ.ค. 67 - 07 ม.ค. 68 | 122,999 บาท | 21,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
55/93 แขวง บางขุนเทียน เขต จอมทอง จังหวัด กรุงเทพมหานคร 10150